งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจและความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาเยือนวัดธารน้ำไหล (สวนโมกขพลาราม) อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี และสร้างแนวทางการพัฒนาพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามนักท่องเที่ยว จำนวน 300 ชุด สุ่มแบบบังเอิญและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา ทดสอบสมมติฐานแบบ T-test , F-test โดยกำหนดค่านัยสำคัญที่ระดับ 0.05 ผลการศึกษาพบกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ( ร้อยละ 62.3 ) มีการศึกษาสูงสุดในระดับปริญญาตรี ( ร้อยละ 44.0 ) อาชีพนักเรียน/นักศึกษา ( ร้อยละ 54.0 ) มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคใต้ ( ร้อยละ 88.0 ) ส่วนใหญ่เดินทางมากกว่า 3 ครั้ง (ร้อยละ 35.9) เป็นกลุ่มครอบครัว ( ร้อยละ 43.7 ) มีความต้องการมาเยือนซ้ำในอนาคต (ร้อยละ 91.8) และกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยม คือปฏิบัติธรรม/ศึกษาธรรม ( ร้อยละ 40.3 ) เดินศึกษาธรรมชาติ (ร้อยละ 36.0) มีแรงจูงใจต่อการมาเยือนวัดธารน้ำไหลเนื่องจากศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา ต้องการมาเยือนแหล่งท่องเที่ยวประเภทวัฒนธรรมและธรรมชาติ และ ชอบเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเป็นพิเศษ ( ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.37 4.26 และ 4.24 ตามลำดับ ) ด้านความพึงพอใจ พบว่านักท่องเที่ยวมีความพึงพอใจรวมในระดับมาก ( ค่าเฉลี่ย 3.66 ) โดยเฉพาะ สถานที่จอดรถเหมาะสม เพียงพอและปลอดภัย ( ค่าเฉลี่ย 3.72 ) และ แหล่งท่องเที่ยวมีความสวยงามทางธรรมชาติและมีความสะอาด ( ค่าเฉลี่ย 3.62 ) ผลการทดสอบสมมติฐานความพึงพอใจในภาพรวมของนักท่องเที่ยวต่อแหล่งท่องเที่ยว จำนวน 5 ปัจจัย คือ เพศ อายุ รายได้ ระดับการศึกษาและอาชีพ พบว่าเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งเอาไว้ 1 ปัจจัย คือ อาชีพ ( F = 4.154 ; Sig =.001 ) สำหรับแนวทางการพัฒนาควรมีการฝึกอบรมบุคลากรในการให้ข้อมูล มีการแบ่งเขตการใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างชัดเจน เพิ่มพื้นที่ในการประกอบกิจกรรมนันทนาการในร่ม และแบ่งโซนอาหารและร้านของฝากให้ชัดเจน