การตรวจประเมินด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental audit)
วันที่เขียน 3/9/2562 11:33:56     แก้ไขล่าสุดเมื่อ 29/4/2567 13:22:22
เปิดอ่าน: 7792 ครั้ง

การตรวจประเมินคุณภาพสิ่งแวดล้อมสามารถระบุประสิทธีภาพ ของระบบการจัดการว่ามีมากหรือน้อยเพียงใด ซึ่งการตรวจประเมินระบบฯ เพื่อขอรับการรับรอง จะดำเนินงานจากองค์กรภายนอก ซึ่งจะมีวิธีการโดยเฉพาะ ดังน้ันผู้ตรวจประเมินจะต้องเข้ารับการฝึกอบรม และฝึกพัฒนาตนเอง ให้สามารถนำประโยชน์มาสู่องค์กรที่ถูกตรวจประเมิน โดยใช้ประบวนการที่ดีที่สุด และใช้งบประมาณให้น้อยที่สุด เนื้อหาของบทความนี้จะกล่าวถึงรายละเอียด และข้ันตอนการตรวจประเมินอย่างคร่าวๆ เพื่อเป็นแนวทางแก้ผู้ที่สนใจ

การตรวจประเมินด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental audit)

ความหมายของการตรวจประเมิน: การดำเนินการด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบและเป็นอิสระ เพื่อกำหนดกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม และผลที่เกิดขึ้น ว่าเป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้หรือไม่โดยผู้ตรวจประเมิน เพื่อที่จะรับรอง และประเมินผลการการดำเนินงานอย่างถูกต้อง และรายงานผลของการตรวจประเมินการดำเนินการด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง

ประเภทของการตรวจประเมินด้านสิ่งแวดล้อม: การตรวจประเมินทางสิ่งแวดล้อม แบ่งออกเป็นหลายประเภท ดังต่อไปนี้

-          การตรวจประเมินการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Compliance Audit)

-          การตรวจประเมินเกี่ยวกับข้อกำหนดที่ถูกกำหนดโดยภาคธุรกิจ (Due Diligence Audit)

-          การตรวจประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment Audit)

-          การตรวจประเมินสิ่งแวดล้อมเบื้องตน (Environmental Pre-acquisition Audit)

-          การตรวจประเมินกระบวนการ (Process Audit)

-          การตรวจประเมินการจัดการผลิตภัณฑ์ (Product Stewardship Audit)

-          การตรวจประเมินผลิตภัณฑ์ (Product Audit)

-          การตรวจประเมินด้านการจัดการของเสีย (Waste Audit)

-          การตรวจประเมินด้านการจัดการพลังงาน (Energy Audit)

-          การตรวจประเมินผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Performance Statement Audit)

-          การตรวจประเมินด้านสิ่งอำนวยความสะดวก (Facility Audit)

-          การตรวจประเมินการปนเปื้อนในพื้นที่ (Contaminated Site Audit)

-          การตรวจประเมินด้านการจัดการป่าไม้ (Forest Stewardship Audit)

-          การตรวจประเมินด้านระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Management System Audit)

 

ความสำคัญของการตรวจประเมินด้านสิ่งแวดล้อม:

-          เพื่อเพิ่มโอกาสในการปรับปรุงระบบในองค์กร 

-          เพื่อสร้างความมั่นในให้กับลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้อง 

-          เพื่อตรวจดูระบบบริหารคุณภาพและสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลต่อการควบคุมคุณภาพของสินค้า/บริการ และกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 

-          เพื่อให้ผู้บริหารองค์กรได้ทราบว่าระบบตรวจประเมินมีประสิทธิภาพและความเหมาะสมหรือไม่ 

-          เพื่อให้แน่ใจว่าการควบคุมเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติ / วิธีการทำงานที่ได้กำหนดไว้ เป็นไปตามข้อกำหนดของตัวสินค้า /บริการ กฎหมาย / ข้อกำหนดอื่นๆ และความพึงพอใจของลูกค้า และมีการพัฒนาปรับปรุงระบบการจัดการอย่างต่อเนื่อง  

-          เพื่อให้องค์กรจัดทำการตรวจประเมินโดยพิจารณาจากสถานะความสำคัญของกระบวนการต่างๆ และผลลัพธ์ของการตรวจประเมินที่ผ่านมา

 

ขั้นตอนการตรวจประเมินด้านสิ่งแวดล้อม: ขั้นตอนในการตรวจประเมิน สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้

1. การวางแผนการตรวจประเมิน (Audit planing) ประกอบไปด้วยขั้นตอนย่อยดังต่อไปนี้

1.1   การกำหนดวัตถุประสงค์ของการตรวจประเมิน

1.2   จัดทำตารางหรือแผนการตรวจประเมิน (Audit plan)

1.3   จัดทำกำหนดการตรวจประเมิน (Audit Program) ซึ่งได้แก่

  • หน่วยงานหรือบุคคลที่จะถูกตรวจประเมิน
  • คณะกรรมการการตรวจหรือผู้ตรวจ
  • เรื่องที่จะทำการตรวจประเมิน
  • ช่วงเวลา
  • ต้องได้รับอนุมัติจากผู้ที่มีอำนาจ

 

1.4   จัดคณะทำงาน คัดเลือกบุคคลที่เหมาะสม ผู้รับผิดชอบกิจกรรมต่างๆ ในการตรวจประเมิน

1.5   แจ้งผู้ดูแลในส่วนที่ต้องถูกตรวจ

1.6   ทบทวนเอกสารที่เกี่ยวข้อง คู่มือ ระเบียบปฏิบัติ วิธีปฏิบัติ เอกสารสนับสนุน และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

1.7   การเตรียมและการจัดทำ checklist มีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  • อ่านเอกสารที่จะทากรตรวจประเมินอย่างละเอียด
  • ทำความเข้าใจในเรื่องที่จะทำการตรวจประเมิน
  • มีความเข้าใจในข้อกำหนดของมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม
  • พิจารณาคำถาม 5W 1H (who, what, where, when, why และ how)

1.8   ประชุมตกลงเตรียมการกับสมาชิกผู้ตรวจประเมิน ประสบการณ์ ความสามารถ และความเป็นอิสระ

1.9   กำหนดขอบเขตของการตรวจ  ว่าต้องตรวจกิจกรรมใดบ้าง ต้องตรวจทั้งระบบ หรือตรวจเฉพาะส่วนงานหรือพื้นที่

1.10   ตรวจสอบเอกสารที่ใช้ดำเนินระบบว่าเป็นไปตามข้อกำหนดหรือไม่

2. การปฏิบัติการตรวจประเมิน

2.1   การเปิดการประชุม

2.2   การดำเนินการตรวจประเมิน

2.3   ทบทวนหลักฐานที่ตรวจพบ

การรายงานผลการตรวจประเมิน: ข้อมูลที่สามารถวัดเป็นรูปธรรม ในเชิงปริมาณและคุณภาพ เป็นหลักฐานจากการตรวจประเมิน เช่น บันทึก รายงานข้อเท็จจริง ที่เกี่ยวช้องกับกิจกรรมการดำเนินงานต่างๆ ที่มีการปฏิบัติตามข้อกำหนดของระบบการจัดการ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของการสังเกต การวัด การทดสอบ และสามารถตรวจสอบได้ โดยสรุปหลักฐานจะได้จาก

  • การสัมภาษณ์
  • การตรวจสังเกตการณ์ปฏิบัติงาน ณ ส่วนที่มีการปฏิบัติงาน
  • การตรวจสอบเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น บันทึกต่างๆ รายงาน ฯลฯ
  • บันทึกสี่งที่ตรวจพบระหว่างการตรวจประเมิน ทำให้ทราบถึงผลการตรวจประเมิน ว่ามีการปฏิบัติที่เป็นไปตามข้อกำหนดหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนด จะมีการกำหนดระดับข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น โดยสามารถแบ่งได้เป็น 4 ระดับดังนี้ คือ

-          Major จัดเป็นระดับความบกพร่องที่รุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจัดการในการควบคุมปัญหา และต้องดำเนอนการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เช่น การไม่ดำเนินการตามกฎหมาย เป็นต้น

-          Minor เป็นระดับความบกพร่องที่เล็กน้อย ยังไม่ส่งผลกระทบต่อความล้มเหลวของระบบฯ

-          Observation เป็นข้อที่ควรปรับปรุง ไม่ใช่ความผิด แต่อาจส่งผลเป็นข้อบกพร่องในอนาคตได้

-          Recommendation เป็นข้อแนะนำในการพัฒนาในอนาคต

2.4   การปิดประชุม: ต้องมีการพูดคุยด้วยวาจา  และผู้รับผิดชอบในแต่ละกิจกรรมต้องรอบรับใบ CAR เพื่อเสนอข้อที่จะแก้ไขและป้องกัน รวมถึงวันที่คาดว่าจะแก้ไขเสร็จ

3        การติดตามผล การแก้ไข และการปิดประเด็นข้อบกพร่อง: เป็นหน้าที่ของผู้ตรวจประเมินที่จะต้องตรวจความคืบหน้าในการแก้ปัญหา ในบางกรณีอาจมีการออกใบ CAR ซ้ำ ไม่สามารถปฏิบัติงานตามเงื่อนไขที่กำหนดได้

4        การายงานผลการตรวจประเมิน (Audit Report) จะต้องมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

4.1 ขอบเขต วันที่ และเวลาของการตรวจประเมิน

4.2 รายชื่อบุคคลทีทำการตรวจประเมิน

4.3 รายชื่อผู้รับการตรวจประเมิน

4.4 จำนวน CAR ทั้งหมด

4.5 สิ่งที่เป็น observation

4.6 พื้นที่ที่ยังไม่ครอบคลุม ถึงแม้ว่าจะอยู่ภายใต้ขอบเขตของการประเมิน

4.7 ลายเซ็นของหัวหน้าคณะผู้ตรวจประเมิน

4.8 ความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างคณะผู้ตรวจกับผู้รับการตรวจ ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้

4.9 ลายเซ็นของตัวแทนฝ่ายบริหารด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม

4.10 ส่งรายงานให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

คำสำคัญ :
กลุ่มบทความ :
หมวดหมู่ :
แชร์ :
https://erp.mju.ac.th/acticleDetail.aspx?qid=991
ความคิดเห็นทั้งหมด (0)
ไม่มีข้อมูลตามเงื่อนไขที่ท่านกำหนด
รายการบทความการแลกเปลี่ยนเรียนรู้หมวดหมู่ : กลุ่มงานสายวิชาการ
Data Science คืออะไร และนำมาใช้ประโยชน์อย่างไร » Data Science คืออะไร และนำมาใช้ประโยชน์อย่างไร
Data Science หรือ วิทยาการข้อมูล หมายถึง การนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ โดยครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บข้อมูล (Collect) การจัดการข้อมูล (Manage) การวิเคราะห์ข้อมูล (Analyze) ไปจนถึงขั้นตอนการนำข้อมูลมาช...
Data Science  วิทยาการข้อมูล     กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานสายวิชาการ
ผู้เขียน ธวัชชัย เพชรธาราทิพย์  วันที่เขียน 24/4/2567 13:27:01  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 29/4/2567 11:36:28   เปิดอ่าน 20  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
การเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการเข้าร่วมประชุมวิชาการ/อบรม/สัมมนา » การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ครั้งที่ 5 มหาวิทยาลัยแม่โจ้
การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ครั้งที่ 5 ในวันที่ 28 มีนาคม 2567 เวลา 08.00 - 17.00 น. ณ ห้องเอกภพวิทยา ชั้น G อาคารจุฬาภรณ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งจัดโดย...
ChatGPT  การประชุมวิชาการ  เทคโนโลยี  วิทยาศาสตร์  สิ่งแวดล้อม     กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานสายวิชาการ
ผู้เขียน พิกุล ศรีดารัตน์  วันที่เขียน 11/4/2567 15:19:10  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 29/4/2567 11:36:36   เปิดอ่าน 35  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง
รายงานสรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเข้าอบรม สัมมนาหรือประชุมวิชาการ » รายงานสรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมและนำเสนอผลงาน การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ครั้งที่ 5
รายงานสรุปเนื้อหาและการนำไปใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมและนำเสนอผลงาน การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ครั้งที่ 5
รายงานสรุปเนื้อหา     กลุ่มงานตามสมรรถนะบุคลากร   กลุ่มงานสายวิชาการ
ผู้เขียน ศิริพร สมุทรวชิรวงษ์  วันที่เขียน 2/4/2567 16:14:15  แก้ไขล่าสุดเมื่อ 29/4/2567 6:03:19   เปิดอ่าน 56  ครั้ง | แสดงความคิดเห็น 0  ครั้ง